Related Posts Plugin for WordPress, Blogger...

พระมหากรุณาธิคุณปกเกล้า ฯ ชาวม้งบ้านไทยสมบูรณ์ จังหวัดเชียงราย


วันจันทร์ที่ 27 มิถุนายน 2554 เป็นวันดีที่ได้เห็นความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งกลั่นจากใจของชาวม้ง บ้านไทยสมบูรณ์ (บ้านห้วยหลู้) ต.ปอ อ.เวียงแก่น จ.เชียงราย ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ ที่ได้รับการเพิ่มชื่อในทะเบียนบ้าน จากผลการตรวจพิสูจน์สารพันธุกรรม (DNA) ยืนยันความเป็นพ่อหรือแม่กับลูก ทำให้ได้สถานะทางกฎหมายตามพ่อหรือแม่ผู้มีสัญชาติไทย

คณะเจ้าหน้าที่จากบริษัทพาโนราม่าเวิล์ไวด์ จำกัด ผู้ถ่ายทำสารคดีเทิดพระเกียรติ “หนึ่งในพระราชดำริ” ได้ขอให้ดิฉันประสานงานเพื่อสัมภาษณ์ชนชาติพันธุ์ในจังหวัดเชียงราย ผู้ได้สัญชาติไทยตามพ่อหรือแม่จากผลของ “โครงการตรวจ DNA เพื่อการพิทักษ์และคุ้มครองสิทธิคนไร้สัญชาติถวายแด่ในหลวง” ซึ่ง 4 องค์กรเอกชน[1] ร่วมกับจังหวัดเชียงราย สำนักทะเบียนทุกอำเภอในจังหวัดเชียงราย โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ และ ศ.นพ.ธานินทร์ ภู่พัฒน์ (นักเรียนทุนพระราชทานอานันทมหิดล) แห่งสถาบันนิติเวช โรงพยาบาลมหาราช มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ได้ร่วมกันดำเนินการตั้งแต่เดือนตุลาคม 2552

ผลจากโครงการตรวจ DNA ฯ ของ จ.เชียงราย มีผู้ได้สัญชาติไทยตามพ่อหรือแม่ 386 คน และจากโครงการตรวจ DNA ฯ โดยวุฒิสภาร่วมกับกรมการปกครอง สถาบันนิติเวช ของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มหาวิทยาลัยขอนแก่น มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ มหาวิทยาลัยมหิดล โรงพยาบาลตำรวจ และสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กับจังหวัดเชียงราย ตราด ระนอง อุบลราชธานี กรุงเทพ ฯ กับสมุทรปราการ มีผู้ได้สัญชาติไทยของจังหวัดเชียงรายอีก 393 คน และมีผู้ที่รอผลการตรวจ DNA อีก 188 คน

ดิฉันได้หารือกับปลัดสนั่น ราชตา ผู้ช่วยจ่าจังหวัดเชียงราย เลขานุการโครงการ DNA ฯ จ.เชียงราย พบว่าอำเภอเวียงแก่นได้ดำเนินการเพิ่มชื่อในทะเบียนบ้านให้แก่ลูกผู้ที่ได้รับผล ยืนยันการสืบสายโลหิตกับพ่อหรือแม่ผู้มีสัญชาติไทยได้อย่างมีประสิทธิภาพและรวดเร็วเต็ม 100 % จึงเลือกชาวม้งจากอำเภอเวียงแก่นเป็นผู้ให้สัมภาษณ์

คณะเจ้าหน้าที่มูลนิธิ พชภ. กับคุณสมชาติ พิพัฒน์ธราดล แห่งมูลนิธิกระจกเงา ผู้จุดประกายให้เกิดโครงการ DNA ฯ ของ จ.เชียงราย และดิฉันได้นำคณะพาโนราม่า เดินทางจากตัวเมืองเชียงรายไปที่ว่าการอำเภอเวียงแก่น ซึ่งท่านนายอำเภอประเสริฐ จิตต์พลีชีพ และปลัดอำเภอหัวหน้าฝ่ายทะเบียนและบัตร นายสำเริง กลั่นน้ำทิพย์ ได้กรุณานำ 4 ครอบครัว ผู้ได้รับสัญชาติไทย มาบันทึกภาพการยื่นเอกสารที่ฝ่ายทะเบียนราษฎร แล้วจึงเดินทางไปยังหมู่บ้านไทยสมบูรณ์ เพื่อเยี่ยมเยียนดูสภาพวิถีชีวิตของครอบครัวและชุมชน

ครอบครัวแรกคือนายปางซื่อ แซ่หาง ซึ่งได้ทำคุณประโยชน์ต่อประเทศคือการไปร่วมรบที่ร่มเกล้า ตั้งแต่สิบกว่าปีมาแล้ว ทั้งยังอบรมเป็นอาสาสมัครของสภากาชาดไทย และอบรมลูกเสือชาวบ้าน

นายปางซื่อ มีภรรยา 2 คน คนแรกมีลูก 6 คน อีกคนมีลูก 4 คน รวมมีลูก 10 คน
พ่อของนายปางซื่อ อายุ 83 ปี สุขภาพดี ยืน เดิน นั่ง หลังตรงไม่มีโค้งงอ พ่อได้สัญชาติไทยนานแล้ว แต่ไม่ได้แจ้งเกิดให้นายปางซื่อ เพราะพูดภาษาไทยไม่ได้ อยู่ห่างไกลจากอำเภอ นายปางซื่อจึงตรวจ DNA กับพ่อ เมื่อได้ผลยืนยันความสัมพันธ์พ่อลูกแล้ว จึงได้เพิ่มชื่อในทะเบียนบ้าน แล้วลูกอีก 4 คน ของนายปางซื่อ ผู้มีสูติบัตร (ซึ่งเคลือบพลาสติกแข็งไว้อย่างดี) ก็ได้เพิ่มชื่อด้วย

ลูก ๆ ได้รับการตั้งชื่อจากนายปางซื่อผู้พ่ออย่างไพเราะ และได้รับการศึกษาอย่างดี เช่น นายแสงสว่าง ซึ่งได้รับพระราชทานปริญญา จบปริญญาตรีศิลปศาสตร์บัณฑิต จาก มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย นายเจอดาว กำลังเรียนที่มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย นายสมพงษ์ กำลังเรียนที่ โรงเรียนวิรุณบริหารธุรกิจและเทคโนโลยีเชียงราย (VBAC) และนางสาวดวงใจ กำลังเรียน ม.4 ที่โรงเรียนเวียงแก่นวิทยาคม

ภูมิปัญญาด้านสมุนไพร ทำให้นายปางซื่อมีรายได้ส่งลูกเรียนได้ โดยเก็บสมุนไพรจากป่ามาหั่นตากแห้ง ส่งไปขายให้ชาวม้งในอเมริกาเพื่อรักษาโรคเกาต์

ครอบครัวที่สอง ชื่อ นายกำพล แซ่ลี ผู้มีรอยยิ้มบนใบหน้าเสมอ กับ นางสาวย่า เกษตรนพกุล เขาได้สัญชาติไทย ลูกชายอายุ 11 ปี อยู่ ป .6 ไม่ได้แจ้งเกิด ตรวจ DNA กับแม่แล้วได้เพิ่มชื่อในทะเบียนบ้าน
เมื่อเด็กชายจะ แซ่ลี ถูกถามว่า ก่อนมีชื่อในทะเบียนบ้าน มีปัญหาอะไร แกน้ำตาไหลทันที ตอบว่า “ ครูไม่ให้ผมเล่นฟุตบอลในทีมของโรงเรียน บอกว่า ต้องมีทะเบียนบ้านก่อน จึงจะได้เล่น ผมเพิ่งได้เล่นเป็นผู้รักษาประตูในทีมของโรงเรียน เมื่ออยู่ป.4 หลังจากมีชื่อในทะเบียนบ้านแล้ว ”

ระหว่างที่คุยกันเรื่องนี้ เด็กชายมีน้ำตาคลออยู่ตลอด คุณครูผู้เลือกปฏิบัติต่อเด็ก จะรู้ไหมว่า แผลในใจของเด็กน้อยผู้บริสุทธิ์ มันล้ำลึกยิ่งนัก

เป็นพระมหากรุณาธิคุณล้นเกล้าฯ ที่มีโครงการตรวจ DNA เทิดพระเกียรติ สิทธิทั้งหมดจึงได้คืนมาอย่างสมบูรณ์

อาการที่เด็กชายจะ เลี้ยงลูกนกที่พลัดตกจากรังของพ่อแม่ ด้วยหัวใจที่อ่อนโยนและเมตตา เป็นภาพที่ประทับใจผู้ใหญ่ยิ่งนัก เด็กชายบอกว่า “ถ้าลูกนกโตจนบินได้แล้ว จะปล่อยให้มีอิสระ”

ครอบครัวที่ 3 คือ นายเยียหือ แซ่หาง กับ นางจื้อ แซ่หาง ซึ่งลูกชายมีสภาพจิตไม่ค่อยสมบูรณ์ ได้ตรวจ DNA กับแม่ ทำให้ผู้เป็นแม่สบายใจ หายห่วงกังวล ว่าลูกได้สัญชาติไทยเหมือนแม่แล้ว เธอมีความซาบซึ้งใจที่ลูกได้ชีวิตซึ่งมีสิทธิความเป็นไทยสมบูรณ์กลับคืนมา จึงถอดเสื้อตามแบบฉบับชาวม้ง ซึ่งเธอตัดเย็บปักเอง ให้เป็นของขวัญแทนคำขอบคุณแก่ดิฉัน ทำเอาทุกคนตื้นตันใจ
คำมั่นสัญญาที่ทั้ง 3 ครอบครัว ตั้งใจทำความดีถวายในหลวง คือ
1. จะอธิษฐานเป็นประจำ ขอพรให้ในหลวงมีสุขภาพดี อายุยืน เป็นดวงใจของชาวไทยอีกแสนนาน
2. จะเป็นพลเมืองดี ไม่ทำผิดกฎหมาย
3. จะเป็นนักเรียนที่ดี เล่นกีฬา ทำหน้าที่ให้ดีที่สุด
4. จะไม่กินเหล้า ไม่สูบบุหรี่ (ยกเว้นเฉพาะต้องทำพิธี)

คำถวายพระพรจากดวงใจของชาวไทยทุกหมู่เหล่า จะช่วยให้แผ่นดินร่มเย็นเป็นสุข ด้วยพระบารมีตลอดไป

เตือนใจ (กุญชร ณ อยุธยา) ดีเทศน์


0 Comments:

แสดงความคิดเห็น